Skip links
View
Drag

Future of Robot and AI in IT

ในปัจจุบัน Robot และ AI ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลาย ๆ มหาวิทยาลัยเริ่มมีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับ Robot เข้ามา เมื่อก่อน Robot อาจจะมีแค่แบบแขนกลที่ใช้ทำงานตามโรงงาน มีเซนเซอร์ทำงานปกติ แต่ปัจจุบันนี้ Robot เปลี่ยนไปซึ่งมีทั้ง Robot ที่เป็นโดรนมีเซนเซอร์ เอาไว้ช่วยเรื่องการเกษตร, Robot ส่งยาตามโรงพยาบาล หรือ Robot ร้านอาหารตามห้าง ซึ่งเราเรียก Robot พวกนี้ว่า RPA (Robotics Process Automation) โดย Robot ประเภทนี้เหมือน Virtual Worker ตัวหนึ่งที่มี Process ในตัวเอง สามารถทำงานเหมือนมนุษย์เราได้แค่ไร้ตัวตน แต่เมื่อเราสอน Bot ให้มีสมอง เช่น เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ให้ Bot ทำแบบนี้ พวกนี้จะเรียกว่า AI ซึ่งส่วนใหญ่ Robot แบบนี้ จะใช้ทำงานด้านเอกสาร และบัญชีซึ่งเกี่ยวข้องกับ Machine Learning

Robot RPA พวกนี้สามารถทำได้เกือบหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Robot ที่มีแขนเสมือนกับมนุษย์ มีตาหรือจอที่ดูว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ในปัจจุบันพวกมันไม่ได้มีแค่มือกับตา แต่ยังมี “สมอง” ด้วย ในอดีตเราจะต้องมี Logic Programmingให้ตัว Robot ทำงานได้ แต่ในปัจจุบันเรามีการสอน Bot ให้มีสมองเหมือนคน ทำให้ Robot รู้ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำแบบไหน สิ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาให้เป็นสมองของ Robot นี้เรียกว่า AI ที่มาทำงานร่วมกับ Robot ต่าง ๆ

ซึ่ง AI ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในเรื่องงานเอกสาร เนื่องจากเอกสารบางอย่างต้องใช้คนในการดูเอกสาร และวิเคราะห์เอกสารว่าเป็นอย่างไร ลักษณะ Robot พวกนี้เราจะใช้เทคนิค Machine Learning ในการทำพวก Model และสอนตัว Robot ให้ทำงาน และเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบัน แทบทุกบริษัทมี Robot แบบนี้ใช้งานอยู่

แล้ว Robot ทำงานกันอย่างไร?

ตัวอย่างเช่น เราต้องการหาของบางอย่างใน E-Commerce Platform ของเรา เพื่อมาทำสต๊อกร้าน ของเดิมเราอาจจะต้องจ้างคน 5-10 คนในการเก็บข้อมูล เช่น ถ้าอยากได้รายละเอียดของเมาส์ยี่ห้อหนึ่ง ก็จะต้องลิสต์รายการต่าง ๆ ของยี่ห้อนั้นออกมา แต่ว่าถ้าเป็น Robot ประเภท RPA สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราแค่สอนให้ Bot รู้ว่าต้องกดตรงไหน คลิกอะไร คลิกเสร็จ Bot ก็จะช่วยเก็บข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ให้ ลักษณะการทำงาน E-Commerce Robot RPA ก็จะสามารถทำงานแทนคนได้ และมีหน้าที่เก็บข้อมูล เราสามารถสอน Bot ให้ทำตามในสิ่งที่เราอยากทำ วิธีการก็ง่ายดายคล้าย ๆ การ Drag and Drop เป็นเหมือนหน้า CUI (Conversational User Interface) ซึ่ง Robot พวกนี้ในอนาคตก็สามารถช่วยเราอำนวยความสะดวกได้มากขึ้น เพราะมันจะช่วยเราทำในสิ่งที่เราต้องทำซ้ำ ๆ ได้ดี เช่น การคีย์ Timesheet หรือการเก็บข้อมูล เป็นต้น

ส่วน AI หรือการนำ Machine Learning มาช่วยแก้ปัญหาอะไรบางอย่าง ซึ่งพวก Robot พวกนี้แก้ปัญหาพวกทีต้องมีการวิเคราะห์ได้ดี เช่น การทำความเข้าใจงานเอกสาร ซึ่งสามารถช่วยทีมบัญชีหรือทีมด้านกฎหมายทำงานได้เหมือนกัน อาจจะเป็นเรื่อง Images Processing ในเรื่องของรูปภาพ เรื่องของภาษาต่าง ๆ เช่น AI – Name Entity Recognition Use Cases เป็น AI ช่วยแยกเอกสาร และแบ่งประเภทของเอกสาร โดยปกติถ้าคนทำ คนต้องอ่านทั้งหมด และต้องทำบ่อย ๆ ถึงจะเก่งจนรู้ว่ามี keyword อะไรที่จะทำให้รู้ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารอะไร แต่ถ้าเป็น AI เราสามารถสอนมัน โดยการป้ายสีให้กับเอกสาร หรือให้จำว่าเอกสารประเภทนี้จะมีคำไหนบ้าง และตัว Robot ก็จะมี Mechanism ที่มันจะใช้ในการจดจำและการวิเคราะห์ต่อยอดได้ ส่วนงานที่ใช้ Robot ประเภทนี้บ่อย ๆ คือ Finance, Contact Center, IT, Legal & Compliance, Supply Chain และ HR ที่ใช้ Robot ประเภทนี้บ่อย ๆ เช่น Automate Test เป็นต้น ซึ่งทำให้เห็นว่าในปัจจุบันตัว Robot เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น และที่สำคัญคือมันเก่ง และไว แล้วเริ่มฉลาดขึ้นด้วย ดังนั้นถ้า Robot ทำได้เหมือนเราหรือเก่งกว่าเรา จึงอาจเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์กลัวว่า Robot พวกนี้จะมาแย่งงานได้ ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพของตนเองตลอดเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้เราสามารถทำงานได้ดีกว่า Robot และสามารถคุม Robot เหล่านี้ได้