การเปิดตัวต่อสาธารณชนของ www.refinn.com เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่แวดวงการการเงินเป็นอย่างยิ่ง
จุดเริ่มต้นของ Refinn มาจากแนวคิดที่เล็งเห็นคนไทยจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาหนี้สินรุมเร้าจนแทบโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะหนี้สินที่อยู่อาศัย ซึ่งใช้ระยะเวลาผ่อนนานหลายสิบปี แถมยังต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเป็นเงินอีกเท่าตัว ของราคาที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงอยากชี้ช่องทางผ่อนหนักเป็นเบาด้วยการ “รีไฟแนนซ์” อันถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักเท่าที่ควร
ทั้งหมดจึงกลายมาเป็นบริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอทคอม สตาร์ทอัพที่ให้บริการรีไฟแนนซ์บ้านผ่านช่องทางออนไลน์ นำโดย กรณ์ จาติกวณิช นิลทิตา เลิศเรืองศุภกุล เพียรไกร อัศวโภคา อรรฆรัตน์ นิติพน และ พงศธร ธนบดีภัทร
“ปัญหาหนึ่งที่เห็นชัดคือ เกือบทุกครอบครัวของคนไทยไม่มีการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีนัก เราคงเคยได้ยินคำว่า Financial advisor หรือที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่คนเหล่านี้ค่าตัวแพงและรับจ้างดูแลเงินระดับ 10-20 ล้านขึ้นไป คำถามคือ เฉพาะคนรวยเท่านั้นหรือที่ต้องการคำแนะนำให้คำปรึกษาเรื่องการบริหารจัดการทางการเงิน คำตอบคือไม่ แต่ทุกคน ไม่ว่ารวยหรือจน ล้วนต้องการได้รับคำปรึกษาเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินที่ดีด้วยกันทั้งนั้น
“วันที่เทคโนโลยีไปไกลกว่าที่เราคิด ทั้งยังใกล้ตัวเรามาก จึงอยากนำเอาวิธีคิดของที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการทางการเงินระดับประเทศเหล่านั้นมาอยู่ในเว็บไซต์ อยากทำเครื่องมือบริหารจัดการทางการเงินที่มันเป็นเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการทางการเงินให้คนไทย สิ่งนั้นคือ บริการรีไฟแนนซ์ผ่านช่องทางออนไลน์” คำบอกเล่าของ พงศธร ธนบดีภัทร ซีอีโอหนุ่ม หนึ่งในผู้ก่อตั้ง www.refinn.com
พงศธรมองว่า ที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักคำว่ารีไฟแนนซ์ และถึงรู้จักก็ยังมีความเข้าใจที่ผิดๆ “อธิบายง่ายๆ ว่า สมมติวันนี้เรากู้เงินจากธนาคารมาซื้อบ้านในราคา 3 ล้านบาท ผ่อนภายใต้ระยะเวลา 30 ปี ดอกเบี้ย 7 % ต่อปี รวมๆ แล้วเราต้องจ่ายเงินทั้งหมดเกือบ 7 ล้านบาท แต่เดี๋ยวนี้แต่ละธนาคารแข่งขันกันดึงลูกค้าด้วยการลดดอกเบี้ย เช่น 3 % หรือ 4 % เราก็ย้ายเจ้าหนี้จากธนาคารเดิมมายังธนาคารใหม่ที่ดอกเบี้ยถูกกว่า นี่คือการรีไฟแนนซ์ เชื่อไหมว่า ปัจจุบันมียอดวงเงินผ่อนบ้านรวมทั้งหมดกว่า 3.3 ล้านล้านบาท แต่มีคนรีไฟแนนซ์แค่ 6 % เท่านั้น ซึ่งน้อยมาก เพราะหลายคนไม่รู้จักว่ารีไฟแนนซ์คืออะไร บางคนรู้จักแต่คิดว่าไม่ได้ประหยัดกว่ากันเท่าไหร่ นอกจากนี้การรีไฟแนนซ์ผิดๆ อาจทำให้เงินหายไปเป็นจำนวนมาก เราจึงอยากเข้ามาช่วยทำให้ถูกต้อง เหมาะสม และชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
ความโดดเด่นของบริการรีไฟแนนซ์ผ่าน www.refinn.com อยู่ตรงการได้นักวางแผนการเงินระดับประเทศมาเป็นมันสมอง ช่วยวางแผนพัฒนาสูตรคำนวณทางการเงินให้ลูกค้า โดยรวบรวมโปรโมชั่นจากธนาคารต่างๆ แล้วนำข้อมูลมาคำนวณเปรียบเทียบเพื่อหาโปรโมชั่นที่ดีที่สุด ก่อนเสนอต่อลูกค้า พร้อมดำเนินการให้จนสำเร็จเสร็จสิ้นครบทุกกระบวนการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว พูดง่ายๆ ว่าทำให้การรีไฟแนนซ์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“สมัยก่อน เวลาจะรีไฟแนนซ์ต้องเดินเข้าไปหาธนาคาร ซึ่งเมืองไทยมีธนาคารที่ให้บริการรีไฟแนนซ์อยู่ 15 แห่ง เดินเข้าไปอย่างมาก 5 ธนาคาร ก็เหนื่อยแล้ว พอได้ข้อมูลโปรโมชั่นมาก็ไม่รู้จะคำนวณยังไง แล้วจะคำนวณได้ก็นานเล่นเอามือหงิก สิ่งที่ www.refinn.com ทำคือ ถามข้อมูลง่ายๆ ว่า ลูกค้ามีหนี้บ้านเหลืออยู่เท่าไหร่ ผ่อนเหลืออีกกี่ปี ปกติจ่ายเดือนละเท่าไหร่ แล้วเราจะคำนวณให้เลยว่าธนาคารไหนบ้างที่จะรีไฟแนนซ์ได้ และรีไฟแนนซ์กับธนาคารไหนจะประหยัดเงินได้เท่าไหร่ หลังจากคำนวณเสร็จ ลูกค้าเลือกโปรโมชั่นที่ถูกใจได้แล้วก็คลิกเข้าไปกรอกข้อมูลทางออนไลน์ ไม่ต้องไปกรอกเอกสารด้วยลายมือ 6-7 หน้าให้เมื่อย พอกรอกข้อมูลเสร็จ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปว่าให้เตรียมเอกสาร เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน แล้วจะดำเนินการยื่นกับธนาคารให้ ธนาคารอนุมัติเรียบร้อย ลูกค้าก็ไปเซ็นสัญญา จบ ง่ายๆแค่นี้เอง เพราะเราจัดการให้คุณหมดทุกอย่างแล้ว” พงศธรอธิบายด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
เป้าหมายของ www.refinn.com พุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่ผ่อนชำระที่อยู่อาศัยมามากกว่า 3 ปีและมียอดหนี้คงเหลือมากกว่า 1 ล้านบาท คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2559 นี้จะมียอดลูกค้าที่มาทำการรีไฟแนนซ์สำเร็จมากกว่า 1 พันล้านบาท และในปี 2560 จะทำการเพิ่มงบปริมาณทางด้านการตลาด บุคลากร รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มากขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการรีไฟแนนซ์ของเมืองไทย
“หลายคนอาจมองว่าจะทำให้ดอกเบี้ยแพงขึ้นหรือเปล่า เพราะคนรีไฟแนนซ์มากขึ้น จริงๆ แล้วเราไม่ได้เอาโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ของตัวเองมาปล่อย ทุกธนาคารมีรีไฟแนนซ์อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราทำคือเป็นตลาดนัดที่นำเอาโปรโมชั่นของทุกธนาคารมากางให้ดู ดังนั้นถึงไม่มีเรา คนที่ต้องการรีไฟแนนซ์ก็จะรีไฟแนนซ์อยู่ดี เราแค่ทำให้การรีไฟแนนซ์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เราอยากขจัดคำว่า’รีไฟแนนซ์เป็นเรื่องยากและไม่คุ้มค่า’ให้หมดไปจากคนไทย เรายังมองไกลกว่านั้น ทุกวันนี้คนวัยเกษียณอายุ 60 ปีขึ้นไป มีเงินเก็บน้อยมาก ส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาลูกหลาน สิ่งที่เราจะทำคือ สมมติว่าคนเริ่มผ่อนบ้านตอนอายุ 30 ปี และจะผ่อนหมดตอนอายุ 60 ปี ถ้าเขาใช้บริการรีไฟแนนซ์เขาจะผ่อนบ้านหมดตอนอายุ 50 ปี เงินเก็บในยามเกษียณของเขาก็จะเพิ่มขึ้น เราอยากช่วยให้คนไทยมีหนี้ลดลง มีภาวะทางการเงินที่ดีขึ้นครับ”
ทั้งหมดนี้เป็นวิสัยทัศน์ที่น่าจับตามองของพงศธร ธนบดีภัทร ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่ง refinn.com