หลังเกิดคดีข่มขืนขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดผวาให้แก่หญิงสาวจำนวนไม่น้อย บางคนกลัวไม่กล้าเดินทางคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ บางคนถึงกับขวนขวายหาสเปรย์พริกไทยมาพกไว้เพื่อป้องกันตัว
เพราะรู้สึกว่าสังคมไทยวันนี้ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตอีกต่อไปแล้ว
แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลอันน่าตกใจว่า การพกสเปรย์พริกไทยมีโทษหนักกว่าคดีข่มขืนถึง 25 เท่า ส่งผลให้สาวๆไม่กล้าครอบครอง แถมยังงุนงงสงสัยว่า อีแค่พกสเปรย์พริกไทยมันผิดมหันต์มากมายขนาดนั้นเชียวหรือ?
เกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ได้ไขข้อสงสัยให้ฟังว่า ความผิดเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ โทษสำหรับคดีข่มขืนกระทำชำเราทั่วไปที่ไม่ใช่เหตุฉกรรจ์ มีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ 40,000 บาท ขณะที่การครอบครองสเปรย์พริกไทย มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 1,000,000 บาท หรือเปรียบเทียบโทษปรับ พูดง่ายๆ คือ โทษสูงกว่าคดีข่มขืนถึง 25 เท่า
สเปรย์พริกไทยถือเป็นวัตถุอันตรายประเภทที่ 4 อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ห้ามมิให้ นำเข้า จำหน่าย พกพา ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 10 ปี หรือปรับ 1,000,000 บาท เหตุผลในการควบคุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกรงว่าจะมีการนำสเปรย์พริกไทยไปใช้ในทางที่ผิด หากมีการจำหน่ายทั่วไปอาจเป็นช่องทางให้เหล่ามิจฉาชีพนำไปใช้ทำร้ายผู้อื่นได้
“อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายนี้ โดยทบทวนแก้ไขบทลงโทษให้ชัดเจนและเหมาะสมขึ้น ให้ประชาชนสามารถพกพาสเปรย์พริกไทยได้ แต่ถ้าใช้ในการกระทำความผิดไม่ใช่ป้องกันตัวจะต้องถูกปรับ เพราะการครอบครองก็เรื่องหนึ่ง การใช้งานก็อีกเรื่องหนึ่ง ต้องแยกและแบ่งให้ชัดเจน อาจอนุญาตให้ครอบครองด้วยปริมาณเท่านั้นเท่านี้ เพื่อป้องกันตัว ยกตัวอย่างยาเสพติด เช่น ยาบ้า ยังระบุเลยว่าถ้าครอบครองมากกว่า 15 เม็ดขึ้นไปถือว่าครอบครองไว้จำหน่าย แต่ถ้าต่ำกว่า 15 เม็ดแสดงว่ามีไว้เพื่อเสพ ซึ่งการแก้ไขกฎหมาย นอกจากจะมีความเป็นธรรมมากขึ้นแล้ว ยังจะเพิ่มความปลอดภัยและโอกาสเอาตัวรอดให้กับผู้หญิงจากอาชญากรมากขึ้นด้วย”
กล่าวโดยสรุปคือ ปัจจุบันการครอบครองสเปรย์พริกไทยถือว่าผิดกฎหมาย ฉะนั้นจนกว่าจะมีการแก้ไขกฎหมาย สาวๆ คงต้องหาวิธีอื่นในการป้องกันตัวเองใหม่จะดีที่สุด
Leave a Reply